๒. ภิกษุรู้แจ้งกายนี้ว่า มีฟองน้ำเป็นเครื่อง
เปรียบ รู้ชัดกายนี้ว่า มีพยับแดดเป็นธรรม ตัด
พวงดอกไม้ของมารเสียแล้วพึงถึงอาทิผิด สถานที่มัจจุราช
ไม่เห็น.
๓. มัจจุย่อมพานระผู้มีใจข้องไปในอารมณ์
ต่าง ๆ ผู้เลือกเก็บดอกไม้อยู่เที่ยวไป เหมือนห้วงน้ำ
ใหญ่พัดชาวบ้านอันหลับแล้วไปฉะนั้น.
๔. มัจจุผู้ทำซึ่งที่สุด กระทำนระผู้มีใจข้อง
ในอารมณ์ต่าง ๆ เลือกเก็บดอกไม้อาทิผิด อาณัติกะ อยู่เทียว ผู้ไม่อิ่ม
ในกามทั้งหลายนั่นแล สู่อำนาจ.
๕. มุนีพึงเที่ยวไปในบ้าน เหมือนแมลงภู่ไม่
ยังดอก สี และกลิ่นให้ชอกช้ำ ถือเอาแต่รสแล้ว
บินไปฉะนั้น.
๖. บุคคลผู้ไม่ควรทำคำแสยงขนของคนเหล่า
อื่นไว้ในใจ ไม่ควรแลดูกิจที่ทำแล้วและยังมิได้ทำ
ของคนเหล่าอื่น พึงพิจารณากิจที่ทำแล้ว และยัง
มิได้ทำของตนเท่านั้น.
๗. ดอกไม้งามมีสี ไม่มีกลิ่นแม้ฉันใด วาจา
สุภาษิตก็ฉันนั้น ย่อมไม่มีผลแก่ผู้ไม่ทำอยู่ ดอกไม้
งามมีสี พร้อมด้วยกลิ่นแม้ฉันใด วาจาสุภาษิตก็
ฉันนั้น ย่อมมีผลแก่ผู้ทำดีอยู่.
เปรียบ รู้ชัดกายนี้ว่า มีพยับแดดเป็นธรรม ตัด
พวงดอกไม้ของมารเสียแล้ว
ไม่เห็น.
๓. มัจจุย่อมพานระผู้มีใจข้องไปในอารมณ์
ต่าง ๆ ผู้เลือกเก็บดอกไม้อยู่เที่ยวไป เหมือนห้วงน้ำ
ใหญ่พัดชาวบ้านอันหลับแล้วไปฉะนั้น.
๔. มัจจุผู้ทำซึ่งที่สุด กระทำนระผู้มีใจข้อง
ในอารมณ์ต่าง ๆ เลือกเก็บ
ในกามทั้งหลายนั่นแล สู่อำนาจ.
๕. มุนีพึงเที่ยวไปในบ้าน เหมือนแมลงภู่ไม่
ยังดอก สี และกลิ่นให้ชอกช้ำ ถือเอาแต่รสแล้ว
บินไปฉะนั้น.
๖. บุคคลผู้ไม่ควรทำคำแสยงขนของคนเหล่า
อื่นไว้ในใจ ไม่ควรแลดูกิจที่ทำแล้วและยังมิได้ทำ
ของคนเหล่าอื่น พึงพิจารณากิจที่ทำแล้ว และยัง
มิได้ทำของตนเท่านั้น.
๗. ดอกไม้งามมีสี ไม่มีกลิ่นแม้ฉันใด วาจา
สุภาษิตก็ฉันนั้น ย่อมไม่มีผลแก่ผู้ไม่ทำอยู่ ดอกไม้
งามมีสี พร้อมด้วยกลิ่นแม้ฉันใด วาจาสุภาษิตก็
ฉันนั้น ย่อมมีผลแก่ผู้ทำดีอยู่.
พระปิฎกธรรม
อรรถประโยชน์ ที่พิมพ์ดูที่อ้าง การเทียบเคียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
_____ ____________________