วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ดูการเทียบเคียง ๔๔/๔๓๐/๑๔

เหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า ครั้งนั้นแล ยักษ์นั้นจึงกล่าวว่า ร้อน ร้อน
แล้วได้จมลงในมหานรกนั้นนั่นเอง.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อวฏฺาสิ แปลว่า ได้ตกไปแล้ว. ถามว่า
ก็ยักษ์นั้นตกนรก ด้วยทั้งอัตภาพยักษ์นั่นแหละหรือ ? ตอบว่า ไม่ตก.
ก็ในที่นี้ เพราะพลังแห่งบาปกรรมซึ่งอำนวยผลในปัจจุบัน ยักษ์จึงเสวย
ทุกข์มหันต์ในอัตภาพเป็นยักษ์. อนึ่ง เพราะอุปปัชชเวทนียกรรมอันเป็น
อนันตริยกรรม ยักษ์จึงเกิดในนรกถัดจากจุติ แต่ร่างกายของพระเถระ
ที่ถูกพลังแห่งสมาบัติสนับสนุน จึงไม่มีวิการอะไรเลย. ความจริง ยักษ์
ประหารท่าน ในเวลาที่ท่านยังไม่ออกจากสมาบัติ. ท่านพระมหาโมคคัล-
ลานะเห็นยักษ์นั้น ประหารอยู่อย่างนั้น ด้วยทิพยจักษุ จึงเข้าไปหา
พระธรรมเสนาบดี. และพร้อมกับเวลาที่เข้าไปหานั่นแหละ พระธรรม-
เสนาบดีก็ออกจากสมาบัติ. ในลำดับนั้น พระมหาโมคคัลลานะ จึงถาม
ถึงความดูแคลนนั้นกะท่านพระธรรมเสนาบดี. ฝ่ายพระธรรมเสนาบดี
ก็ได้พยากรณ์แก่ท่าน. ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวอาทิผิด อักขระว่า ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะได้เห็นแล้วแล ฯ ล ฯ ก็แต่ว่าศีรษะของผมมีทุกข์นิด
หน่อย.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โถกํ ทุกฺขํ ความว่า ศีรษะของผม
เป็นทุกข์ คือได้รับความทุกข์นิดหน่อย คือมีประมาณน้อยนิดคล้าย
หยดเทียน จริงอยู่ ศีรษะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกข์ ท่านเรียกว่า มีทุกข์
บาลีว่า สีเส โถกํ ทุกฺขํ เป็นทุกข์นิดหน่อยที่ศีรษะ ดังนี้ก็มี. ถามว่า
ก็เมื่อสรีระถูกพลังแห่งสมาบัติสนับสนุน ศีรษะของพระเถระเป็นทุกข์
น้อยหนึ่งอย่างไร ? ตอบว่า เพราะท่านออกจากสมาบัติไม่นานเลย. จริงอยู่
พระปิฎกธรรม
 อรรถประโยชน์ ที่พิมพ์ดูที่อ้าง การเทียบเคียง
คลิกเมาส์ตราสัญลักษณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

_____ ____________________