ได้ยินว่า ในอดีตกาล ในกรุงพาราณสี ยังมีบุรุษเปลี้ย
คนหนึ่ง เป็นผู้ฉลาดในการประกอบการดีดกรวด เขาถึงความ
สำเร็จในศิลปการอาทิผิด สระ ดีดกรวดนั้น นั่งอยู่ที่โคนต้นไทรใกล้ประตูพระนคร
แสดงรูปช้าง ม้า มนุษย์ รถ เรือนยอด ธง และหม้อน้ำเต็มเป็นต้น
ที่ใบไทรด้วยการดีดกรวด พวกเด็กในพระนคร ให้ทรัพย์หนึ่งมาสก
และกึ่งมาสก เพื่อประโยชน์แก่การเล่นของตน ให้เขาแสดงศิลป
เหล่านั้น ตามความชอบใจ
ภายหลังวันหนึ่ง พระเจ้าพาราณสี เสด็จออกจากพระนคร
เข้าไปยังโคนต้นไทรนั้น เห็นการจำแนกรูปต่าง ๆ โดยเป็นรูปช้าง
เป็นต้น ที่แนบสนิทอยู่ที่ใบไทร จึงตรัสถามพวกมนุษย์ว่า ใครหนอ
กระทำการจำแนกรูปต่าง ๆ อย่างนี้ ที่ใบไทรเหล่านี้ พวกมนุษย์
ชี้ให้ทอดพระเนตรบุรุษเปลี้ยนั้นแล้วทูลว่า บุรุษเปลี้ยนี้กระทำ
พระเจ้าข้า. พระราชารับสั่งให้เรียกบุรุษ. เปลี้ยนั้นมาแล้วตรัส
อย่างนี้ว่า แน่ะพนาย เธออาจเพื่อจะเอามูลแพะใส่ให้เต็มท้องของ
บุรุษคนหนึ่ง ผู้ที่เราชี้ให้ ผู้กล่าวอยู่กะพระราชานั้นนั่นแหละ
ได้ไหมหนอ. บุรุษเปลี้ยทูลว่า ได้พระเจ้าข้า. พระราชาจึงนำบุรุษ
เปลี้ยนั้นเข้าไปยังพระราชวังของพระองค์ ทรงเบื่อหน่ายปุโรหิต
ผู้พูดมาก จึงรับสั่งให้เรียกตัวปุโรหิตมา นั่งปรึกษากันในโอกาส
ที่สงัดกับปุโรหิตนั้น อันแวดล้อมด้วยกำแพง คือม่าน จึงรับสั่งให้
เรียกบุรุษเปลี้ยมา. บุรุษเปลี้ยถือเอามูลแพะประมาณทะนานหนึ่ง
มา รู้อาการของพระราชา นั่งบ่ายหน้าตรงปุโรหิต เมื่อปุโรหิตนั้น
คนหนึ่ง เป็นผู้ฉลาดในการประกอบการดีดกรวด เขาถึงความ
สำเร็จใน
แสดงรูปช้าง ม้า มนุษย์ รถ เรือนยอด ธง และหม้อน้ำเต็มเป็นต้น
ที่ใบไทรด้วยการดีดกรวด พวกเด็กในพระนคร ให้ทรัพย์หนึ่งมาสก
และกึ่งมาสก เพื่อประโยชน์แก่การเล่นของตน ให้เขาแสดงศิลป
เหล่านั้น ตามความชอบใจ
ภายหลังวันหนึ่ง พระเจ้าพาราณสี เสด็จออกจากพระนคร
เข้าไปยังโคนต้นไทรนั้น เห็นการจำแนกรูปต่าง ๆ โดยเป็นรูปช้าง
เป็นต้น ที่แนบสนิทอยู่ที่ใบไทร จึงตรัสถามพวกมนุษย์ว่า ใครหนอ
กระทำการจำแนกรูปต่าง ๆ อย่างนี้ ที่ใบไทรเหล่านี้ พวกมนุษย์
ชี้ให้ทอดพระเนตรบุรุษเปลี้ยนั้นแล้วทูลว่า บุรุษเปลี้ยนี้กระทำ
พระเจ้าข้า. พระราชารับสั่งให้เรียกบุรุษ. เปลี้ยนั้นมาแล้วตรัส
อย่างนี้ว่า แน่ะพนาย เธออาจเพื่อจะเอามูลแพะใส่ให้เต็มท้องของ
บุรุษคนหนึ่ง ผู้ที่เราชี้ให้ ผู้กล่าวอยู่กะพระราชานั้นนั่นแหละ
ได้ไหมหนอ. บุรุษเปลี้ยทูลว่า ได้พระเจ้าข้า. พระราชาจึงนำบุรุษ
เปลี้ยนั้นเข้าไปยังพระราชวังของพระองค์ ทรงเบื่อหน่ายปุโรหิต
ผู้พูดมาก จึงรับสั่งให้เรียกตัวปุโรหิตมา นั่งปรึกษากันในโอกาส
ที่สงัดกับปุโรหิตนั้น อันแวดล้อมด้วยกำแพง คือม่าน จึงรับสั่งให้
เรียกบุรุษเปลี้ยมา. บุรุษเปลี้ยถือเอามูลแพะประมาณทะนานหนึ่ง
มา รู้อาการของพระราชา นั่งบ่ายหน้าตรงปุโรหิต เมื่อปุโรหิตนั้น
พระปิฎกธรรม
อรรถประโยชน์ ที่พิมพ์ดูที่อ้าง การเทียบเคียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
_____ ____________________