วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565

ดูการเทียบเคียง ๗๐/๖๒๐/๓

กองอาบัติทั้ง ๗ มีปาราชิกเป็นต้น. อีกอย่างหนึ่ง ได้แก่เป็นผู้ฉลาดยิ่ง
คือเป็นผู้เฉลียวฉลาดในอธิกรณสมถะ คือในอธิกรณ์ที่ท่านกล่าวว่า
ท่านรู้กันว่า อธิกรณ์มี ๔ คือวิวาทาธิกรณ์อาทิผิด อักขระ อนุวาทาวิกรณ์
อาปัตตาธิกรณ์ และกิจจาธิกรณ์.
และในอธิกรณสมถะ ๗ ที่กล่าวไว้อย่างนี้ว่า
สัมมุขาวินัย สติวินัย อมูฬหวินัย ปฏิญญาตกรณะ
เยภุยยสิกา ตัสสปาปิยสิกา และติณวัตถารกะ.
บทว่า อุปาลิ ตํ มหาวีร ความว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญผู้มีความ
เพียรใหญ่ยิ่ง คือผู้มีความเพียร เพื่อบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ ในสี่-
อสงไขยแสนกัป พระอุบาลีภิกษุย่อมไหว้ คือย่อมกระทำความนอบน้อม
ที่พระบาท คือที่พระบาทยุคลของพระองค์ผู้เป็นศาสดา คือผู้พร่ำสอน
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย.
เชื่อมความว่า ข้าพระองค์นั้นบวชแล้วนมัสการอยู่ คือกระทำการ
นอบน้อมพระสัมพุทธเจ้าอยู่ และรู้ว่าพระธรรมคือโลกุตรธรรม ๙ ที่
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงแสดงแล้ว เป็นธรรมดี คือว่าเป็นธรรมงาม
จึงนมัสการพระธรรมอยู่ จักเที่ยวไปจากบ้านสู่บ้าน จากบุรีสู่บุรี คือจาก
นครสู่นคร.
บทว่า กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ ความว่า กิเลสทั้งหมดนับได้ ๑,๕๐๐
ซึ่งอยู่ในจิตตสันดานของข้าพระองค์ อันข้าพระองค์เผา คือทำให้ซูบซีด
เหือดแห้ง พินาศไปแล้ว ด้วยอรหัตมรรคญาณที่แทงตลอดแล้ว. บทว่า
ภวา สพฺเพ สมูหตา ความว่า ภพทั้งหมด ๙ ภพ มีกามภพเป็นต้น
ข้าพระองค์ถอนแล้ว คือถอนหมดแล้ว ได้แก่ทำให้สิ้นแล้ว ขจัดแล้ว.
พระปิฎกธรรม
 อรรถประโยชน์ ที่พิมพ์ดูที่อ้าง การเทียบเคียง
คลิกเมาส์ตราสัญลักษณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

_____ ____________________