ทุกวันนี้ดิฉันมีใจบริสุทธิ์ ปราศจากใจ
ที่ชั่วช้า มีอาสวะสิ้นไปทั้งหมด บัดนี้ภพใหม่
ไม่มีอีก
ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้าดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.
ทราบว่า ท่านพระนฬมาลิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบนฬมาลิกาเถรีอปทาน
มหาปชาบดีโคตมีเถรีอปทานที่ ๗ (๑๗)
บุพจริยาของพระมหาปาชาบดีโคตมีเถรี
[๑๕๗] ในกาลครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ผู้เป็นประทีปแก้วส่องโลกให้สว่างไสว
เป็นนายสารถีอาทิผิด อักขระ ฝึกนรชน ประทับอยู่ ณ กูฏาคาร
ศาลาป่ามหาวันใกล้พระนครเวสาลี
ครั้งนั้น พระมหาปชาบดีโคตมีอาทิผิด ภิกษุณี พระมา-
ตุจฉา ของพระพิชิตมาร อยู่ในสำนักนางภิกษุณี
ในพระนครอันรื่นรมย์นั้น พร้อมด้วยพระภิกษุณี
๕๐๐ องค์ ซึ่งล้วนแต่พ้นจากกิเลสแล้ว เมื่อ
พระมหาปชาบดีโคตมีนั้นอยู่ในที่สงัด ตรึกนึกคิด
อย่างนี้ว่า
การปรินิพพานของพระพุทธเจ้าก็ดี ของ
คู่พระอัครสาวกก็ดี ของพระราหุล พระอานนท์
และพระนันทะก็ดี เราไม่ได้เห็น
ที่ชั่วช้า มีอาสวะสิ้นไปทั้งหมด บัดนี้ภพใหม่
ไม่มีอีก
ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้าดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.
ทราบว่า ท่านพระนฬมาลิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบนฬมาลิกาเถรีอปทาน
มหาปชาบดีโคตมีเถรีอปทานที่ ๗ (๑๗)
บุพจริยาของพระมหาปาชาบดีโคตมีเถรี
[๑๕๗] ในกาลครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ผู้เป็นประทีปแก้วส่องโลกให้สว่างไสว
เป็นนาย
ศาลาป่ามหาวันใกล้พระนครเวสาลี
ครั้งนั้น พระ
ในพระนครอันรื่นรมย์นั้น พร้อมด้วยพระภิกษุณี
๕๐๐ องค์ ซึ่งล้วนแต่พ้นจากกิเลสแล้ว เมื่อ
พระมหาปชาบดีโคตมีนั้นอยู่ในที่สงัด ตรึกนึกคิด
อย่างนี้ว่า
การปรินิพพานของพระพุทธเจ้าก็ดี ของ
คู่พระอัครสาวกก็ดี ของพระราหุล พระอานนท์
และพระนันทะก็ดี เราไม่ได้เห็น
พระปิฎกธรรม
อรรถประโยชน์ ที่พิมพ์ดูที่อ้าง การเทียบเคียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
_____ ____________________